สาวมินิปรี๊ดแตกอีก! ช่างพาสาวซิ่ง ไม่ยอมมาขอโทษ เล็งแจ้งความเอาผิด

คดียังไม่จบ สาวเจ้าของรถมินิฯ เตรียมเอาผิด หลังประนีประนอมให้มานาน ช่างตัวดีไม่โผล่มาขอโทษ ฉุนเจ้าของอู่บอกว่าเรื่องจบด้วยดี

จากกรณีช่างอู่รถแห่งหนึ่งนำรถมินิคูเปอร์ของลูกค้า ที่นำไปซ่อมที่อู่ไปเที่ยวกับแฟนสาวและโพสต์ภาพลงในเฟซบุ๊ก โดยที่เจ้าของรถทราบเพียงว่า รถยังไม่เสร็จทั้งที่ซ่อมเป็นเวลา 5 เดือนแล้ว จนต้องออกมาตามทวงคืน ซึ่งท้ายที่สุดช่างได้ให้รถคืนพร้อมกับมีการให้สัมภาษณ์ว่า ได้ใช้เวลาซ่อมประมาณ 1 เดือน และยอมรับว่ามีการนำรถไปทดลองขับจริง

รวมทั้งการทดสอบขับไปดอยม่อนแจ่ม โดยอ้างว่าต้องทดสอบรถด้วยการใช้ในเส้นทางที่เป็นภูเขาเพราะเจ้าของรถระบุว่า ปกติใช้ที่ จ.แม่ฮ่องสอน ที่เป็นเส้นทางขึ้นลงภูเขา จึงต้องการทดสอบให้มั่นใจ ส่วนค่าน้ำมันรถนั้น เป็นค่าใช้จ่ายในการไปรับรถยนต์คันดังกล่าวที่จอดเสียอยู่ที่ จ.แม่ฮ่องสอน เพื่อมาซ่อมที่ จ.เชียงใหม่

ในเวลาต่อมา เจ้าของอู่ไม่อยากเป็นข่าวต่อเนื่องไปอีกจึงไม่ให้สัมภาษณ์ และอยากให้เรื่องมันจบลงด้วยดี ขอวอนโลกออนไลน์เข้าใจ และในส่วนกับคู่กรณีได้คุยกันเรียบร้อยและเรื่องจบลงด้วยดีแล้วด้วยจึงไม่อยากต่อความยาวไปอีกกลัวจะกระทบกับการทำงานของตัวเองซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ที่มาใช้บริการก็จะเข้าใจ ก็ขอร้องหากมีข่าวออกไปอีกก็จะทำให้เสียลูกค้าของตนอีก

ล่าสุด เจ้าของของรถมินิ “คุณฟาง” ได้ออกมาไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กอีกครั้งว่า ที่ไม่เอาเรื่องและไม่แจ้งความในตอนแรกเพราะคิดเพียงว่า อยากได้รถคืน แต่กลับกลายเป็นว่า ช่างที่เอารถไปไม่ได้สำนึกและออกมาให้สัมภาษณ์ในเชิงที่ไม่สำนึกในสิ่งที่ทำ ทำให้ตนต้องขอกลืนน้ำลายตัวเองที่บอกว่าจะไม่ฟ้อง และจะไม่ยอมในเรื่องดังกล่าว ซึ่งจะมีการแจ้งความต่อไป

ทั้งนี้ ค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่ซ่อมรถคือ จำนวน 85,000 บาท เป็นค่าเกียร์ที่โอนไปแล้ว ค่าเสียเวลา 5,000 บาท ซึ่งมีค่าน้ำมันรถรวมอยู่แล้ว เป็นค่าใช้จ่ายที่มาเอารถไปซ่อม ส่วนค่าน้ำมันอีก 2,500 บาท เป็นบิลที่มีการเบิกมาทีหลังอีก ส่วนสภาพรถหลังจากที่ไปเอารถคืนก็พบว่า ยังมีสิ่งที่ต้องตรวจเช็คอีก เช่น ระบบไฟ ที่พบว่า ไฟหน้าปัดรถยังค้างอยู่

ขณะที่บรรดาชาวโซเชียลมีเดียต่างยังเข้าไปในเฟซบุ๊กของทางอู่ซ่อมรถ คอมเม้นท์วิจารณ์การกระทำของเจ้าของอู่อย่างไม่หยุดยั้ง พร้อมกดให้คะแนน 1 ดาวซึ่งเป็นคะแนนที่น้อยที่สุดกว่า 1 พันครั้ง อีกทั้งยังคอมเม้นท์ต่อว่าเจ้าของอู่ถึงพฤติกรรมดังกล่าว ที่ทำให้วงการอู่ซ่อมรถเสียชื่อเสียง รวมไปถึงของให้ปิดอู่ซ่อมรถดังกล่าว จนล่าสุดเจ้าของอู่ซ่อมรถดังกล่าวได้ปิดเฟซบุ๊กส่วนตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ที่มา – Workpoint News – ข่าวเวิร์คพอยท์