:: ศิลปินแห่งชาตินำ 30 นายหนังตะลุง ขับกลอน “สำนึก-ถวายอาลัยพ่อหลวง”

 

ศิลปินแห่งชาติ สาขาการแสดงหนังตะลุงนำกลุ่มศิลปินพื้นบ้านหนังตะลุง 30 คณะ ขับกลอนครั้งประวัติศาสตร์รำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ อันหาที่สุดมิได้ และถวายความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

(21 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากที่ สมาคมศิลปินพื้นบ้านนครศรีธรรมราชในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช หัวหน้าคณะหนังตะลุงจังหวัดนครศรีธรรมราบกว่า 30 คน พร้อมคณะลูกคู่รวมตัวกันขับบทกลอนหนังตะลุง ประกอบเสียงดนตรีพื้นบ้านปักษ์ใต้ 

เพื่อถวายความอาลัย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ภายในห้องบันทึกรายการของสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดนครศรีธรรมราช และถูกนำมาเผยแพร่ทางยูทูป เฟซบุ๊ค และโลกโซเชี่ยล ได้มีผู้เข้าไปติดตามชมกันอย่างกวางขวาง 

โดยเฉพาะในกลุ่มศิลปินพื้นบ้าน และนักกลอนทั่วไป ได้คัดลอกเอาเฉพาะบทกลอนไปเผยแพร่ต่อ ๆ กันออกไปอย่างกว้างขวาง และนำมาเก็บไว้เป็นที่ระลึกเป็นกลอนแม่บทในการแสดงหนังตะลุง โนราห์ และร้องเพลงบอก 

เพราะถือเป็นการร่วมขับบทกลอนประวัติศาสตร์ครั้งหนึ่ง ที่มีคณะนายหนังตะลุงทุกระดับตั้งแต่ชั้นบรมครูที่ได้รับรางวัลศิลปินแห่งชาติลงมาจนถึงระดับนายหนังตะลุงชื่อดัง รวมทั้งคณะหนังตะลุงเยาวชนที่ได้รับการยอมรับและยกย่องในสังคมอย่างกว้างขวาง 

ได้รวมตัวกันกว่า 30 ชีวิต และร่วมกันขับบทกลอนถวายอาลัย สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ด้วยเนื้อหา สาระที่ไพเราะกินใจมากที่เท่าสุดที่เคยมีปรากฏในวงการศิลปินพื้นบ้านปักษ์ใต้

สำหรับคณะนายหนังที่ร่วมขับกลอน ประกอบด้วย 

หนังเคล้าน้อย โรจนเมธากุล ศิลปินแห่งชาติ สาขาการแสดงพื้นบ้านหนังตะลุง ประจำปี พ.ศ. 2555 หนังครวญ แสงแก้ว เจ้าของรางวัลผู้ใช้ภาษาไทยดีเด่น ประจำปี 2559 

หนังสวัสดิ์ ตะลุงสากล หนังสถิตย์ ศ.ปรีชาศิลป์ หนังลูกหมี สงวนศิลป์ หนังยอดทอง อ้ายลูกหมี หนังโอปอ ศ.เคล้าน้อย หนังสมพงษ์ ระฆังทอง หนังสิงหา หลานเคล้าน้อย หนังประจวบ น้องเคล้าน้อย หนังโขน อ้ายลูกหมี หนังกุ้ง พงศธร 

พร้อมด้วย 2 นายหนังเจ้าของรางวัลแชมป์ถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สนามราชกุมารี (แชมป์งานเทศกาลเดือนสิบ ประจำปี 2548-2549) คือ หนังเอิบน้อย ยอดขุนพล หนังปฐม อ้ายลูกหมี และหนังวรพจน์ เธียรทอง รวมทั้งเพลงบอกสมใจ ศรีอู่ทอง ผู้ประพันธ์บทกลอน นอกจากนี้ยังมีคณะลูกคู่หนังตะลุงหลายคณะ ที่ได้รวมตัวขับบทกลอนหนังตะลุง ประกอบเสียงดนตรีพื้นบ้านครั้งประวัติศาตร์ครั้งนี้

โดยคณะนายหนังตะลุงได้ขับบทสลับกันไปคนละ 1 บท ประกอบกับเสียงดนตรีพื้นบ้าน หนังตะลุงอย่างไพเราะกินใจ โดยเนื้อหาในบทกลอนหนังตะลุงได้กล่าวพรรณนาถึงการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช 

หลังจากที่พระองค์ทรงเหนื่อยจากงานในการช่วยเหลือประชาชน โครงการพระราชดำริ และหลักคำสอนพระราชดำรัส รวมถึงปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงที่ทำให้พสกนิกรของพระองค์ท่านได้อยู่ดีกินดี การเสด็จสวรรคตของพระองค์นับเป็นความสูญเสีย ความเศร้าใจ ที่พระองค์ท่านจากปวงชนชาวไทยไปสู่วรรคคาลัย และร่วมร้องเพลงและร้องเพลงสรรเสริญบารมี ประสานด้วยเสียงปี่หนังตะลุงสด ๆ อย่างสุดไพเราะ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้มีการนำการขับบทกร่อนหนังตะลุงดังกล่าวไปเผยแพร่ทางยูทูปและในโลกโซเชี่ยล จนมีผู้เข้าไปชมและแชร์ออกไปอย่างกว้างขวาง โดยในส่วนของเนื้อหาของบทกลอนดังกล่าวมีดังต่อไปนี้………….

(ดนตรีพื้นบ้าน) เมื่อพฤหัสบดีเวลาตีสามเศษ บังเกิดเหตุไทยวิปโยค เศร้าโศกศัลย์
ที่สิบสามตุลาคมระทมครัน จัดเป็นวันประวัติศาสตร์ ของชาติไทย
แรก คศ.สำคัญสองพันสิบหก น้ำตาไทยไหลตก จนทุกศกสมัย

ปีสองพันห้าร้อยห้าเก้าเราเศร้าใจ กษัตริย์ไทยสวรรคต เกิดเป็นปรากฏการณ์
พระมหาภูมิพลอดุลยเดช ทั่วประเทศเศร้าโศกา นึกแล้วน่าสงสาร
ฝากคำสอนเอาไว้ให้กระทำเจ็ดประการ ร่วมกันสร้างบ้านสร้างเมือง ให้เรืองรอง
สอนลูกไทยให้รู้รักสามัคคี สอนให้มีความปัญญา ได้พัฒนาสมอง

สอนแผ่นดินให้โดดเด่นกลายเป็นทอง ท่านทรงครองแผนดิน ด้วยศีลธรรม
ทุกหมู่บ้านชุมชนค้นหาเหตุ พระยลเนตรมาเหลียวดู ราชูปถัมภ์
ด้วยวาจีพระดำรัสเป็นสัจจะธรรม ล้วนถ้อยคำที่ล้ำเลิศ ชนเชิดชู

ด้วยพระราชโอสวาทหรือพระราชดำริ สร้างสันติสงบสุข ให้เกิดทุกเหล่าหมู่
จัดเป็นมรดกที่ควรยกชู ให้อยู่คู่กับโลกันต์ นิรันดร์กาล
วรกายพ่อหายไแสนไกลแล้ว ถ้อยวจีเจื้อยแจ้ว ยังแว่วหวาน

ลูกจะขอสัญญาและปณิธาน จะสืบสานคำสอน ทุกตอนไป
พระมหากรุณาธิคุณเลิศ เป็นบ่อเกิดความสุข ทุกสมัย
ปวงข้าพร้อมน้อมถวายไว้อาลัย ด้วยหัวใจทุกข์ระทม สืบตรมตรอม
ส่งเสด็จสู่สวรรคอันสูงลิบ สู่เมืองทิพย์แท่นท้าว พ่อเจ้ากระหม่อม

พ่อมาร้างห่างรสสู่อดออม ลูกตรมตรอมโศกา สุดอาลัย
บุญกุศลประเสริฐเกิดทุกชาติ ขอเป็นข้ารองบาท ไม่ว่าเกิดชาติไหน
ดุจประทีปสีทองส่องทั่วไทย เสด็จไปไหลลับ ไม่กลับเลย
เหล่ามนุษย์ครุฑาสารสัตว์ เงียบสงัดทั่วพนา นิจจาเหย

โอ้ลูกไทยหัวใจหายไม่วายเลย สุดจะเอ๋ยถ้อยคำ ขึ้นรำพัน
วอนวิญญาณในหลวงของปวงราษฎร์ ทุกๆชาติพ่อเสวย ให้ได้เชยสวรรค์
ขอวิงวอนเทพเจ้าท้าวเทวัญนำวิญญาณ พระทรงธรรม์ ขึ้นสวรรคาลัย

เห็นภาพพ่อภูมิพบบนเหรียญบาท น้ำเนตรหยาดอาบปางค์ เป็นทางไหล
สวมแว่นตาดูน่ารักพักตร์ประไพ ต่อนี้ไปคงไม่เห็น เช่นทุกวัน
โอ้นิจจาพ่อมาพรากจากเราไป จะพบพ่อได้ตอใด คงเห็นได้ที่ในฝัน

วอนวิญญาณเอกองค์พระทรงธรรม์ เสด็จสู่สรวงสวรรค พ่อเหอนิรันดร์กาล
เจ็ดสิบล้านดวงใจไทยถ้วนทั่ว หม่นหมองมัวไปไป ทั่วสิ้นทุกถิ่นฐาน
มโนน้อมสักการะพระภูบาล ดวงพระวิญญาณสู่สวรรค ชั้นคาลัย
(ซ้ำ) ดวงพระวิญญาณสู่สวรรคชั้นคาลัย…………..!

 

 

 

 

ไพฑูรย์ อินทศิลา /กัญญาณัฐ เพ็ญสวัสดิ์ /นครศรีธรรมราช
21 พ.ย. 2559