รุนแรงหนัก! เมืองคอนเตรียมประกาศชายฝั่งทะเลปากพนังที่ถูกคลื่นกัดเซาะ เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติ

ขณะที่แขวงทางหลวงนครศรีธรรมราชที่ 1 เอาก้อนหินขนาดใหญ่ไปถมเพื่อป้องกันถนนไม่ให้พังทลาย เพื่อให้รถผ่านไปมาได้

วันนี้(29 พ.ย.58) นายพงศ์เทพ ไข่มุกด์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วยนายชัยธวัช ศิวบวร หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครศรีธรรมราช นายชัพวิชญ์ ไตรแพทย์ รองผู้อำนวยการแขวงทางหลวงนครศรีธรรมราชที่ 1

ได้ลงตรวจสอบพื้นที่บ้านเกาะทัง หมู่ที่ 7 ตำบลท่าพญา และบ้านหน้าโกฏิ หมู่ที่ 10 ต.ขนาบนาก อ.ปากพนัง ซึ่งเป็นพื้นที่ได้รับความเสียหายจากถูกคลื่นทะเลกัดเซาะชายฝั่ง ทำให้ถนนสายปากพนัง-หัวไทร (หมายเลข 4013)ได้รับความเสียหาย

โดยที่บ้านเกาะทังมีระยะทางประมาณ 200 เมตร และบ้านหน้าโกฏิ ประมาณ 500 เมตร นอกจากนี้บ้านเรือนของประชาชนที่อยู่ชายฝั่งได้รับความเดือดร้อน 7 หลังด้วย

ซึ่งการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นทางแขวงทางหลวงนครศรีธรรมราชที่ 1 ได้นำหินขนาดใหญ่ไปถมบริเวณตลอดแนวถนนที่ถูกคลื่นทะเลกัดเซาะ เพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ให้รถสามารถวิ่งสัญจรไปมาได้ 1 ช่องจราจร

นายพงศ์เทพ ไข่มุกด์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า พื้นที่ดังกล่าวจะประสบปัญหาเป็นประจำทุกปีโดยเฉพาะในช่วงฤดูมรสุมที่คลื่นลมแรงในช่วงเดือนพฤศจิกายน – เดือนธันวาคม

โดยในเบื้องต้นทางแขวงทางหลวงนครศรีธรรมราชที่ 1 ได้จัดซื้อหินขนาดใหญ่ไปถมตลอดแนวถนนที่ถูกคลื่นกัดเซาะเพื่อให้รถสามารถวิ่งสัญจรไปมาได้ 1 ช่องจราจร ส่วนในระยะยาวจะมีการถมหินให้สูงประมาณ 1.5 เมตร

อย่างไรก็ตามแขวงทางหลวงนครศรีธรรมราช ที่ 1 ได้จัดเจ้าหน้าที่อยู่ประจำจุดดังกล่าวตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อคอยอำนวยความสะดวกและเก็บกวาดทรายและเศษวัสดุต่าง ๆ ที่ถูกคลื่นซัดขึ้นไปบนถนน

สำหรับบ้านเรือนของราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อน 7 หลังคาเรือนนั้น ได้ให้ทางอำเภอปากพนังรายงานเหตุด่วนไปให้จังหวัดทราบเพื่อจะได้ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติเพื่อให้ความช่วยเหลือตามระเบียบทางราชการต่อไป ซึ่งจะมีการประชุมคณะกรรมการระดับจังหวัดในวันจันทร์ที่ 30 พฤศจิกายน 2558 ในเบื้องต้นหากคลื่นลมแรงขอให้อพยพไปนอนที่บ้านญาติเป็นการชั่วคราวก่อนเพื่อความปลอดภัย

นายประมวล สถาพร อายุ 61 ปี ชาวบ้านเกาะทัง ต.ท่าพญา กล่าวว่า เดิมตนเองมีที่ดินกว่า 20 ไร่ แต่ถูกคลื่นทะเลกัดเซาะได้รับความเสียหายต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2531 จนถึงปัจจุบัน ต้องย้ายบ้านหนี 3 ครั้ง แต่วันนี้ที่ดินทั้งหมดกลายเป็นทะเลไปแล้ว

บ้านที่สร้างอยู่ในปัจจุบันอยู่ในเขตทางหลวง ที่ยังอยู่ได้เพราะทาง อบต.ท่าพญา ได้นำก้อนหินขนาดใหญ่ไปถมกันคลื่นไว้ แต่ความแรงของคลื่นได้ซัดหลังคาบ้านได้รับความเสียและน้ำทะเลเข้าไปในบ้านด้วย ซึ่งอยู่ด้วยกัน 4 คน ยังไม่รู้ว่าจะอพยพไปอยู่ที่ไหน เพราะไม่มีที่ดินแล้ว จึงอยากขอให้ทางราชการช่วยหาที่อยู่อาศัยให้ใหม่ด้วย.

ข่าว-ภาพ/สนง.ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครฯ