จังหวัดนครศรีธรรมราชเตือนภัยระดับสีแดงพื้นอำเภอนบพิตำ หลังฝนตกหนักต่อเนื่องวัดปริมาณน้ำฝนสะสมได้ 163 มิลลิเมตร

จังหวัดนครศรีธรรมราชเตือนภัยระดับสีแดงพื้นอำเภอนบพิตำ หลังฝนตกหนักต่อเนื่องวัดปริมาณน้ำฝนสะสมได้ 163 มิลลิเมตร

เมื่อเวลา 07.30 น.วันนี้(30 พ.ย.58) นายชัยธวัช ศิวบวร หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ได้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องกระจายทุกอำเภอของจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยสามารถวัดปริมาณน้ำฝนสะสมสูงสุดได้ 163 มิลลิเมตรที่อำเภอนบพิตำ รองลงมาอำเภอท่าศาลา 144 มิลลิเมตร อำเภอเมืองนครศรีธรรมราชและอำเภอพระพรหม 120 มิลลิเมตร ซึ่งจากฝนตกหนักดังกล่าวทางศูนย์สำรวจอุทกวิทยาที่ 7 นครศรีธรรมราช ได้เฝ้าระวังและเตือนภัยน้ำหลาก-ดินถล่มในระดับสีแดง ที่ตำบลนบพิตำ ตำบลนาเหรง อ.นบพิตำ ตำบลเขาน้อย อ.สิชล ตั้งแต่เวลา 21.00 น.วันที่ 29 พฤศจิกายน 2558 และเตือนภัยในระดับสีเหลืองตำบลทอนหงส์ อำเภอพรหมคีรี จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าวได้ปฏิบัติตามคำเตือนและคำแนะนำของเจ้าหน้าที่และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดด้วย เช่นการขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง การอพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย เป็นต้น นอกจากนี้ อำเภอนบพิตำ นอกจากเกิดฝนตกแล้วมีลมกระโชกแรงด้วย ทำให้ต้นสะตอและต้นหมากล้มทับบ้านของนายอาวุษ ศรีษะแก้ว เลขที่ 92/1 ม.4 ต.นบพิตำ อ.นบพิตำ ได้รับความเสียหายบางส่วนเป็นกระเบื้องประมาณ 300 แผ่น แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บเเละเสียชีวิต อบต.นบพิตำ ผู้ใหญ่บ้าน และตำรวจ สภ.นบพิตำ เข้าให้ความช่วยเหลือแล้ว ส่วน นายก อบต.กรุงชิง แจ้งว่าฝนตกหนักมีน้ำท่วมเส้นทางหลายแห่ง โดยพื้นที่ ม.8 บ้านทับน้ำเต้า รถไม่สามารถสัญจรเข้าออกในพื้นที่ได้และมีรถกระบะพลัดตกลงไปในคลอง ซึ่งทาง อบต.ได้ช่วยเหลือลากขึ้นมาจากคลองแล้ว ไม่มีผู้บาดเจ็บเช่นกัน

หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า นอกจากนี้ได้
เกิดเหตุคลื่นทะเลซัดฝั่งทำให้ถนนทางหลวงเลียบชายทะเล สายปากพนัง-หัวไทร ถูกน้ำกันเซาะเสียหายต้องปิดการจราจร 1 ช่องทาง เป็นระยะทางช่วงละประมาณ 200 เมตร 2 ช่วง และมีบ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบถูกน้ำท่วมและคลื่นซัดเสียหาย จำนวน 7 หลัง ขณะนี้แขวงทางหลวงนครศรีธรรมราช 1 อยู่ระหว่างทำการซ่อมถนนส่วนที่ชำรุดและจัดกำลังเฝ้าอำนวยความสะดวก 24 ชม. สำหรับบ้านเรือราษฎรที่ได้รับผลกระทบ อำเภอปากพนัง อบต.ท่าพญา อบต.ขนาบนาก กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และสมาชิกสภาท้องถิ่นในพื้นที่ได้ติดตามเฝ้าระวังและช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้ว ส่วนที่อำเภอ สิชล ได้รับแจ้งจาก อบต.เสาเภา ว่ามีฝนตกหนักลมกระโชกแรง ทำให้เกิดบ้านทรุดตัว 1หลัง บ้านเลขที่ 53 ม. 1 บ้านขุนจันทร์ ต.เสาเภา อ.สิชล เจ้าของบ้านชื่อนางจุฑาภรณ์ ชัยฤกษ์ ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ อบต.เสาเภาได้ออกสำรวจความเสียหายเบื้องต้นและได้อพยพผู้เดือดร้อนไปยังที่ปลอดภัยแล้ว และได้รับแจ้งจาก อบต.เขาน้อย ว่ามีรถกระบะมาสด้าBT50 สีขาวตอนครึ่งทะเบียน ฆว 9245 กทม ถูกกระแสน้ำซัดตกถนนฝายน้ำล้นคลองส้มโอ พื้นที่ ม.3 บ้านห้วยแก้ว ต.เขาน้อย อ.สิชล แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ทราบชื่อเจ้าของรถ นายกมลวร ปุณวิทยโภคิน ชาว จ.ชุมพร สาเหตุเนื่องจากขับลุยข้ามกระแสน้ำขึ้นไปเพื่อเหมาซื้อทุเรียนทวายจากสวนในพื้นที่ โดยมีหน่วยงานที่เข้าให้การช่วยเหลือได้แก่ กำนัน ต.เขาน้อย อบต.เขาน้อย กำลังทหารกองร้อยฝึกรบพิเศษสิชล สนง.ปภ.นศ.สาขาสิชล และชาวบ้านละแวกใกล้เคียง ซึ่งต้องเดินเท้าเข้าไปประมาณ 4 กม. แต่ยังไม่สามารถนำรถขึ้นมาได้ เนื่องจากฝนตกหนักและเป็นเวลากลางคืนจึงยุติการช่วยเหลือเมื่อเวลา 20.00น.โดยในวันนี้จะดำเนินการกู้รถต่อไป และสำนักงาน ปภ.สาขาสิชล รายงานเหตุน้ำล้นตลิ่งคลองท่าควายมีผลกระทบต่อที่ลุ่มบริเวณริมคลอง ในพื้นที่ ม.1 ม.4 ต.ทุ่งปรัง และล้นตลิ่งคลองท่าทน มีผลกระทบในที่ลุ่มริมคลอง ม.10 ต.เทพราช อำเภอสิชล

หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามในช่วงเช้าวันนี้ 30พ.ย.58) ปริมาณฝนในพื้นที่ส่วนใหญ่หยุดตกแล้วมีฝนเล็กน้อยในพื้นที่ป่าเขา ปริมาณน้ำที่รอการระบายได้เอ่อท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำอยู่บางส่วนในอำเภอนบพิตำ อำเภอสิชล และอำเภอท่าศาลา คาดว่าสถานการณ์จะคลี่คลายภายในวันนี้และจะได้สำรวจความเสียหายและผลกระทบต่อประชาชนในรายละเอียดต่อไป.

ข่าว : มล คนเมืองคอน